สมุนไพรยาหม้อ รักษา โรค ตับแข็ง

อาการของโรคตับแข็ง ตอนแรกจะไม่ทราบถ้าไม่เจาะเลือดดู ผู้ป่วยจะมีอาการตาเหลือง ดีซ่าน ท้องมาน ขาบวม ผู้ชายมีหน้าอกโต เพราะมีฮอร์โมนเพศหญิงออกมาเยอะ ที่ฝ่ามือจะมีสีแดงจัด บางคนผิวหนังมีเส้นเลือดเป็นจุดกระจายเป็นเส้นเหมือนใยแมงมุม

คลินิกการแพทย์แผนไทย รพ.พระปกเกล้า ให้การรักษาโรคตับแข็งด้วยยาสมุนไพรตำรับพัทธะปิตตะ ทำให้ผู้ป่วยอาการดีขึ้น อาการอักเสบของตับลดลง ตรวจเลือดพบว่าค่าการทำงานของตับดีขึ้น โดยเริ่มการรักษามาตั้งแต่ปี 2548 ส่วนใหญ่เป็นโรคตับแข็งระยะสุดท้าย รักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันแล้วท้องไม่ยุบ แถมน้ำหนักกลับเพิ่มขึ้น ในอนาคตอันใกล้ถ้าไม่รักษา คนไข้จะกินไม่ได้ เพราะแน่นและบวมขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายหายใจไม่ออก อึดอัด คนไข้จะผอมลงจนกระทั่งเสียชีวิต

ผู้ป่วยบางรายที่มารักษา นอกจากเป็นโรคตับแข็งแล้วยังมีก้อนมะเร็งด้วย กรณีนี้ต้องบอกเลยว่า รพ.ไม่สามารถรักษามะเร็งตับได้ เรารักษาเพียงโรคตับแข็งเท่านั้น โดยยาสมุนไพรจะไปลดการอักเสบของตับ ที่เกิดจากไวรัสตับอักเสบบี หรือ ซี แอลกอฮอล์ พอลดการอักเสบของตับแล้วผู้ป่วยไม่ไปดื่มแอลกอฮอล์อีก ตับจะซ่อมแซมตัวเอง เพราะฉะนั้นเมื่อตับไม่อักเสบเรื้อรังก็จะไม่เกิดตับแข็ง และไม่กลายไปเป็นมะเร็ง คือ เราไม่ได้รักษาโดยตรงแต่เราป้องกันไว้ตั้งแต่แรก เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าคนที่เป็นไวรัสตับอักเสบบี และซี มันจะกลายไปเป็นตับแข็ง บางส่วนจะกลายไปเป็นมะเร็งตับ ดังนั้นถ้ารักษาตั้งแต่ตับอักเสบเรื้อรัง ลดการอักเสบ มันก็ไม่กลายไปเป็นตับแข็งและมะเร็งตับ

ขั้นตอนการรักษา เริ่มจากคนไข้มา รพ. จะมีการอัลตราซาวด์ตับ ดูพยาธิสภาพว่าไม่มีก้อนมะเร็ง ไม่มีฝี หรือมีอะไรนอกเหนือจากนี้ เพราะถ้าเป็นมะเร็งแล้วรักษาไม่ได้ จากนั้นก็ให้ผู้ป่วยกินยาสมุนไพรดังกล่าว เร็วที่สุด 3 สัปดาห์ หรือประมาณ 1 เดือนท้องจะยุบ แต่บางรายอาจใช้เวลา 3-5 เดือน ส่วนการทำงานของตับที่ตรวจได้จากผลเลือดประมาณ 5 เดือนจะดีขึ้น ตับกลับมาทำงานได้ในระดับปกติ

น.ส.เพ็ญศรี สงวนทรัพย์ แพทย์แผนไทย รพ.พระปกเกล้า กล่าวว่า ยาสมุนไพรรักษาโรคตับแข็ง เป็นสูตรของบรรพบุรุษ ที่ผ่านมาให้การรักษาผู้ป่วยโรคตับแข็งมาแล้วกว่า 100 ราย อายุต่ำสุด 30 กว่าปี สูงสุด 70 กว่าปี ทั้งนี้การรักษาส่วนใหญ่ 3-5 สัปดาห์อาการจะดีขึ้น แต่ต้องรักษาต่อเนื่อง 3-6 เดือน หลังจากนั้นให้ผู้ป่วยหยุดกินยาต้มและกินยาบำรุงตับแทน อาหารต้องห้ามสำหรับผู้ป่วย คือ ธัญพืช เพราะจะทำให้ร้อน เนื่องจากปกติภาระการทำงานของตับผู้ป่วยหนักอยู่แล้ว การไปเพิ่มความร้อนจะยิ่งทำให้ตับทำงานหนักขึ้น นอกจากนี้ยังห้ามกินอาหารหวานจัด หรือของหมักดองด้วย ส่วนอาหารที่ควรรับประทานเพื่อบำรุงตับสำหรับผู้ป่วยและคนทั่วไป อาทิ มะระขี้นก มะระจีน ถั่วลันเตา ยอดเต่ารั้ง

สำหรับส่วนประกอบของสมุนไพรตำรับพัทธะปิตตะ มีอยู่หลายชนิด อาทิ หัวเต่าเกียด หัวเต่ารั้ง ใบชุมเห็ดเทศ และเถาวัลย์เปรียง เป็นต้น

ด้าน น.ส.วาสนา สุขไพศาล พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ และแพทย์แผนไทย รพ.พระปกเกล้า กล่าวว่า กรณีที่เป็นมะเร็งตับแล้วไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่คนไข้บางรายก็อยากให้รักษา ซึ่งตัวคนไข้บางคนก็ให้ข้อมูลว่าอาการปวด หรือทุกข์ทรมานน้อยลง โดยหลักการรักษาโรคตับแข็งจะดีขึ้นประมาณ 80% อาการท้องมาน ตาเหลือง เท้าบวมจะหายไป

ด้าน นายสุกรี กิ่มนางรอง อายุ 49 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ เล่าว่า ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคตับแข็งเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว มีอาการบวมที่ข้อเท้า แขน ท้องมาน อาเจียน รับประทานอะไรไม่ได้เลย ตอนนั้นไม่รู้จะไปทางไหน พอดีน้องสาวได้ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตว่า รพ.พระปกเกล้า ให้การรักษาโรคนี้อยู่ก็เลยตัดสินใจมารักษา เริ่มจากกินยาต้มประมาณ 1 สัปดาห์อาการบวมก็ยุบลง จากนั้นก็กินต่อเนื่องมาตลอด ตอนนี้อาการดีขึ้นประมาณ 90% ผลตรวจตับก็ดีขึ้น สาเหตุที่ผมเป็นเป็นโรคตับแข็งคงเป็นเพราะดื่มเหล้ามาก ดื่มมาตั้งแต่วัยรุ่น ช่วงที่รักษาก็หยุดหมดทั้งเหล้า บุหรี่

ท้ายนี้คงต้องบอกกับท่านผู้อ่านว่า การใช้ยาสมุนไพรรักษาโรคก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แต่ไม่ควรไปหาซื้อยาสมุนไพรที่เร่ขายมาต้มกินเองเพราะนอกจากโรคจะไม่หายแล้ว อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ หากต้องการรักษาจริงควรไปรักษาใน รพ.ที่เปิดให้บริการด้านนี้ หรือรักษากับแพทย์แผนไทยโดยตรงดูแลจะดีกว่า.

นวพรรษ บุญชาญ

เรื่องต่อไป
« โพสก่อนหน้า
เรื่องก่อนหน้า
โพสต่อไป »